มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - ทำบุญก่อนได้ก่อน
หากเราปรารถนาความสุขความสำเร็จ เพื่อส่งผลให้เราไปบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เราต้องรู้จักวิธีที่จะให้ได้สิ่งเหล่านั้นก่อน วิธีการนั้น พระบรมศาสดาท่านแนะนำให้สั่งสมบุญ เพราะหากเรายังไม่เข้าถึงพระธรรมกายภายใน ยังมองไม่เห็นบุญ แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่สัมผัสได้ด้วยใจ บุญเป็นธาตุสำเร็จที่คอยอำนวยสิ่งที่ดีงาม ดลบันดาลความสุขความสำเร็จในชีวิตให้บังเกิดขึ้น
มงคลที่ ๑๐ มีวาจาสุภาษิต - โคนันทวิสาล
จะเห็นได้ว่า การกล่าววาจาทุพภาษิต เช่น คำหยาบ คำด่านั้น ไม่ดีเลย เหมือนที่พราหมณ์พูดกับโคนันทิวิสาล ในการเดิมพันครั้งแรก ทำให้ต้องเสียทรัพย์แก่เศรษฐีและอับอายขายหน้า แต่ครั้นพราหมณ์กล่าวถ้อยคำที่ไพเราะเสนาะหู และเสริมสร้างกำลังใจให้แก่กัน ก็สามารถกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาได้ และยังได้ทรัพย์สินอีกมากมาย เพราะคำพูดที่ไพเราะนั้นมีฤทธิ์ มีอานุภาพ
มงคลที่ ๑๐ มีวาจาสุภาษิต - ผู้นำบุญของโลก
อานิสงส์จากการทำหน้าที่ผู้นำบุญ ชักชวนผู้อื่นให้ทำความดีนั้น มีอานิสงส์มาก จะทำให้เราอยู่ใน เส้นทางแห่งความดีตลอดไป เหมือนท่านสันตติมหาอำมาตย์ที่ชักชวนคนทำความดีมาตลอด ๘๐,๐๐๐ ปี เมื่อถึงขีดถึงคราวบุญส่งผล ก็สามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้
มงคลที่ ๖ ตั้งตนชอบ - มหาพรหมผู้เห็นผิด
พระบรมศาสดาตรัสเตือนพรหมตรงๆ ว่า "พกพรหม ผู้เจริญ ตัวท่านกำลังตกอยู่ในอำนาจของอวิชชา เพราะได้พูดสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง กล่าวถึงธรรมที่ไม่อาจนำออกจากทุกข์ว่า เป็นธรรมที่นำออกจากทุกข์ได้ ท่านกล่าวเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรแก่ท่านเลย"
ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 18
เมื่อสิ้นเสียงของนางเทพธิดาพสุนทรี เหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ก็พลันบังเกิดขึ้นพร้อมกันถึง 4 อย่างคือ ความเจ็บป่วยของสุวรรณสามพระโพธิสัตว์ได้คลายหายไปเป็นปลิดทิ้ง แม้รอยแผลอันเกิดจากการถูกยิงก็กลับเลือนหายไปไม่ปรากฏรอยแผลใดๆเลย
ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 17
ฤษิณีผู้เป็นมารดา ได้ยกเท้าทั้งสองขึ้นกอดไว้แนบอก แล้วพร่ำรำพันอยู่ว่า “โธ่ พ่อสามะของแม่ เจ้าต้องมานอนเกลือกเปื้อนฝุ่นทราย ถูกทิ้งไว้ในป่าใหญ่ ดุจดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ตกลงสู่ผืนดินเสียแล้ว โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย...พ่อสามะผู้งดงามของแม่ เจ้ามาหลับใหลเหมือนคนเมาสุราไม่ยอมลุกขึ้นสักที เจ้าขัดเคืองใครหรือจึงไม่ยอมพูดจาอะไรกับแม่บ้างเลย”
มงคลที่ ๒ คบบัณฑิต - สัมมาทิฏฐิ ( ๓ )
"ระหว่างพระพุทธเจ้ากับท่านอุรุเวลกัสสปะ ใครหนอจะมีอานุภาพมากกว่ากัน" พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงล่วงรู้ความคิดของชาวเมือง จึงตรัสถามท่านว่า "ดูก่อนกัสสปะ ท่านเคยเป็นอาจารย์สั่งสอน หมู่ชฎิลผู้ผ่ายผอมเพราะกำลังประพฤติพรต ท่านเห็นอะไรจึงได้ ละไฟที่เคยบูชาเสียเล่า ท่านเห็นประโยชน์อะไรจึงมาประพฤติพรหมจรรย์กับเรา"
ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 14
...ข้าแต่พระราชา ...พระองค์ทรงทำความผิดไว้มาก ได้กระทำกรรมอันชั่วช้า ประทุษร้ายสุวรรณสามผู้บริสุทธิ์ ทำให้บิดามารดาผู้ตาบอดของเธอพลอยลำบาก และกำลังจะอดตายตามกันไป พระองค์ทรงทำบาปมหันต์ จะตกไปสู่อบายอย่างแน่แท้
ตามหารอยพระพุทธบาท จนได้มาพบองค์พระภายใน
พอจรดใจไปที่องค์พระ ดิฉันก็เหมือนละลาย และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับท่าน องค์พระสีทองซ้อนขึ้นมาจนนับไม่ถ้วน องค์พระใสอยู่กับตัวดิฉัน และดิฉันก็รู้สึกเหมือนอยู่ในองค์พระ เหมือนที่หลวงพ่อบอกว่า “เราเป็นองค์พระ องค์พระเป็นเรา” ดิฉันสามารถยืนยันได้ และมีความสุขมากๆค่ะ
ศิลา…อาถรรพ์
พระภิกษุรูปหนึ่ง ท่านรักในการอยู่ธุดงค์ ปลีกวิเวก...เมื่อครั้งที่ท่านได้เดินทางไปที่วัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง ท่านได้ไปพบหินสีดำ มีลักษณะคล้ายเสมา จึงเอ่ยปากขอลอยๆ แล้วนำติดตัวกลับมาวัดที่ท่านพำนักอยู่...หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ผิดธรรมชาติหลายอย่าง และเมื่อเวลาท่านนั่งสมาธิ ท่านยังเห็นนิมิตประหลาดอีกด้วย...7วันต่อมา ในขณะที่สาธุชนราว 30ชีวิต กำลังร่วมกันปฏิบัติธรรม ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างน่ากลัว ผู้คนพากันแตกตื่น หอฉันซึ่งยังสร้างไม่เสร็จได้พังลงมา